ดอกบัวในโถแก้ว: วิธีทำดอกบัวอบแห้งการทำ ดอกบัวอบแห้ง เป็นวิธีที่ช่วยรักษารูปทรงและสีสันของดอกบัวไว้ได้นาน ทำให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งบ้าน งานฝีมือ หรือแม้แต่นำไปทำชาดอกบัวได้ด้วย การอบแห้งดอกบัวนั้นมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และเวลาที่คุณมีครับ
หลักการสำคัญของการทำดอกบัวอบแห้ง
หัวใจของการอบแห้งดอกไม้คือ การกำจัดน้ำออกจากกลีบดอกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยที่โครงสร้างและสีสันของดอกยังคงสภาพเดิม การควบคุมความร้อนและความชื้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ
วิธีทำดอกบัวอบแห้งยอดนิยม
1. การอบแห้งด้วยสารดูดความชื้น (Silica Gel)
เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษารูปทรงและสีสันของดอกไม้ให้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด แต่มีค่าใช้จ่ายเรื่องสารดูดความชื้น
อุปกรณ์:
ดอกบัวสด (เลือกดอกที่กำลังแย้มบาน หรือตูมสวยงาม)
สารดูดความชื้น (Silica Gel) ชนิดเม็ดเล็กๆ (หาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์งานฝีมือ หรือร้านค้าออนไลน์)
ภาชนะปิดสนิท (เช่น กล่องพลาสติกมีฝาปิด)
แปรงขนนุ่ม
ถุงมือ
ขั้นตอน:
เตรียมดอกบัว: ตัดก้านบัวให้สั้นลงประมาณ 1-2 นิ้ว หรือเหลือส่วนที่เป็นดอกบัวให้ติดก้านเล็กน้อย เด็ดกลีบเลี้ยงสีเขียวด้านล่างออก
เตรียมภาชนะ: โรยสารดูดความชื้น (Silica Gel) รองพื้นกล่องประมาณ 1-2 นิ้ว
วางดอกบัว: วางดอกบัวลงบนชั้นของ Silica Gel อย่างเบามือ เว้นระยะห่างระหว่างดอก
โรยสารดูดความชื้นคลุม: ค่อยๆ โรย Silica Gel ให้คลุมดอกบัวจนมิด โดยเริ่มจากโรยตามซอกกลีบดอกไปจนทั่วดอก เพื่อให้เม็ดสารเข้าไปแทรกอยู่ระหว่างกลีบดอกทุกชั้น
ปิดฝา: ปิดฝากล่องให้สนิทที่สุด เพื่อป้องกันความชื้นจากภายนอกเข้า
รอเวลา: ทิ้งไว้ประมาณ 3-7 วัน (หรืออาจจะนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับขนาดและความชื้นของดอกบัว)
นำออกมา: เมื่อครบเวลา ค่อยๆ เทสารดูดความชื้นออกอย่างเบามือ ใช้แปรงขนนุ่มปัดเม็ด Silica Gel ที่ติดอยู่ตามกลีบออกให้หมด
เก็บรักษา: เก็บดอกบัวอบแห้งไว้ในภาชนะที่ปิดสนิท ป้องกันความชื้นและแสงแดด สารดูดความชื้นสามารถนำไปอบไล่ความชื้นแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้
2. การอบแห้งด้วยเตาอบ (Oven Drying)
เป็นวิธีที่รวดเร็ว แต่ต้องควบคุมอุณหภูมิให้ดีเพื่อไม่ให้ดอกบัวไหม้หรือเปลี่ยนสี
อุปกรณ์:
ดอกบัวสด
ถาดอบ
กระดาษรองอบ (Baking Paper)
ขั้นตอน:
เตรียมดอกบัว: ตัดก้านดอกให้สั้น เด็ดกลีบเลี้ยงออก
เตรียมถาด: วางกระดาษรองอบบนถาด แล้ววางดอกบัวเรียงกันโดยเว้นระยะห่าง
ตั้งอุณหภูมิ: อบที่อุณหภูมิต่ำที่สุดของเตาอบ (ประมาณ 40-60 องศาเซลเซียส หรือ "Warm" setting)
อบอย่างช้าๆ: อบเป็นเวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมง หรือจนกว่าดอกบัวจะแห้งสนิทและกรอบ (อาจต้องเปิดประตูเตาอบแง้มๆ ไว้เล็กน้อย เพื่อระบายความชื้น) หมั่นตรวจสอบอยู่เสมอเพื่อป้องกันการไหม้
ทิ้งให้เย็น: เมื่อดอกบัวแห้งแล้ว ให้นำออกจากเตาอบและปล่อยให้เย็นสนิทก่อนจับต้อง เพราะตอนที่ยังร้อนอยู่ดอกจะเปราะมาก
3. การอบแห้งด้วยเครื่องอบลมร้อน (Food Dehydrator)
เป็นวิธีที่ควบคุมอุณหภูมิได้ดี และให้ผลลัพธ์ที่ดี
อุปกรณ์:
ดอกบัวสด
เครื่องอบลมร้อน (Food Dehydrator)
ขั้นตอน:
เตรียมดอกบัว: ตัดก้านดอกให้สั้น เด็ดกลีบเลี้ยงออก
วางบนถาด: วางดอกบัวบนถาดของเครื่องอบลมร้อน โดยให้แต่ละดอกมีช่องว่าง
ตั้งอุณหภูมิและเวลา: ตั้งอุณหภูมิประมาณ 35-45 องศาเซลเซียส (ตามคำแนะนำของคู่มือเครื่องอบ) และอบประมาณ 4-8 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับขนาดของดอกบัว)
ตรวจสอบ: หมั่นตรวจสอบเป็นระยะว่าดอกบัวแห้งสนิทหรือไม่
4. การอบแห้งโดยการแขวน (Air Drying)
เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ แต่ดอกบัวอาจจะหดตัวและสีซีดลงได้ง่ายกว่าวิธีอื่น
อุปกรณ์:
ดอกบัวสด
ยางรัด หรือเชือก
ไม้แขวนเสื้อ หรือราวตากผ้า
ขั้นตอน:
เตรียมดอกบัว: ตัดก้านบัวให้ยาวพอประมาณ (ประมาณ 6-8 นิ้ว) เด็ดใบและกลีบเลี้ยงที่อยู่ต่ำลงมาออก
มัดรวมกัน: รวบก้านบัวเป็นช่อเล็กๆ ประมาณ 3-5 ดอก แล้วใช้ยางรัดหรือเชือกมัดปลายก้านให้แน่น
แขวนกลับหัว: แขวนช่อดอกบัวแบบกลับหัวลงในที่แห้งสนิท มีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่โดนแสงแดดโดยตรง และไม่มีความชื้น (เช่น ห้องเก็บของ หรือมุมห้องที่อากาศถ่ายเท)
รอเวลา: ทิ้งไว้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ หรือจนกว่าดอกบัวจะแห้งสนิทและแข็ง
การนำไปใช้งานและการเก็บรักษา
สำหรับดื่มชา: หากต้องการทำชาดอกบัว ควรเลือกดอกบัวที่ปลอดสารเคมี และเน้นวิธีอบแห้งที่ยังคงสีและกลิ่นหอมไว้ได้ดี (เช่น Silica Gel หรือเครื่องอบลมร้อน)
สำหรับการตกแต่ง: วิธี Silica Gel จะให้ดอกบัวที่สวยงามเหมือนจริงที่สุด เหมาะสำหรับงานฝีมือ หรืองานประดิษฐ์
การเก็บรักษา: เมื่อดอกบัวแห้งสนิทแล้ว ให้เก็บไว้ใน ภาชนะสุญญากาศ หรือภาชนะที่มีฝาปิดสนิท วางไว้ในที่แห้งและพ้นจากแสงแดดโดยตรง เพื่อป้องกันการดูดซับความชื้นและคงสีสันไว้ให้นานที่สุด
การทำดอกบัวอบแห้งต้องใช้ความอดทนและเทคนิคเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่าแน่นอนครับ