แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 17
1
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


2
เผยสูตรลับ “ซอสกะเพรา” สร้างเงิน สร้างอาชีพ

กะเพราเป็นเมนูยอดนิยมที่ทำขายได้ง่ายและสร้างรายได้ดี การมี "ซอสกะเพรา" สูตรลับเฉพาะ จะช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และสร้างความแตกต่างให้กับร้านของคุณได้ ต่อไปนี้เป็นสูตรซอสกะเพราที่สามารถนำไปปรับใช้และสร้างอาชีพได้:

ส่วนผสมสำหรับซอสกะเพรา (สำหรับ 10 ที่):

พริกขี้หนูสด (หรือพริกจินดา) 100 กรัม (ปรับลดตามความเผ็ดที่ต้องการ)
กระเทียมไทย 150 กรัม
น้ำปลา 1/4 ถ้วยตวง
ซอสหอยนางรม 1/2 ถ้วยตวง
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป (หรือน้ำเปล่า) 1/4 ถ้วยตวง
ใบกะเพรา 1 ถ้วยตวง
น้ำมันพืช 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ:

โขลกพริกและกระเทียมให้ละเอียด (หรือหยาบตามชอบ)
ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันพืช
ใส่พริกและกระเทียมที่โขลกไว้ ผัดให้หอม
ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และน้ำซุป
ผัดให้เข้ากัน ชิมรสและปรับตามชอบ
ใส่ใบกะเพรา ผัดเร็วๆ ให้เข้ากัน ปิดไฟ
พักให้เย็น เก็บใส่ภาชนะปิดสนิท แช่ตู้เย็นไว้ใช้ได้หลายวัน

เคล็ดลับความอร่อย:

เลือกใช้พริกและกระเทียมสดใหม่: จะช่วยให้ซอสมีกลิ่นหอมและรสชาติที่ดี
ปรับรสชาติ: สามารถปรับรสชาติของซอสได้ตามชอบ เช่น เพิ่มความเผ็ดด้วยพริกแห้ง หรือเพิ่มความหวานด้วยน้ำตาลปี๊บ
ผัดให้หอม: การผัดพริกกระเทียมให้หอม จะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับซอส
ใส่ใบกะเพราสด: ใบกะเพราสดจะให้กลิ่นหอมและรสชาติที่ดีกว่าใบกะเพราแห้ง
เพิ่มตัวเลือก: สามารถเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ ลงในซอสได้ เช่น พริกไทยดำ หรือพริกไทยอ่อน

เคล็ดลับทำขาย:

ทำซอสล่วงหน้า: เพื่อความรวดเร็วในการผัดกะเพรา
บรรจุภัณฑ์: เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่สะอาดและปลอดภัย
ป้ายชื่อ: ติดป้ายชื่อและราคาให้ชัดเจน
โปรโมท: โปรโมทสินค้าของคุณผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย หรือปากต่อปาก
รักษาความสะอาด: รักษาความสะอาดของวัตถุดิบและอุปกรณ์

ข้อควรระวัง:

ความสะอาดของวัตถุดิบและอุปกรณ์
ความสดใหม่ของวัตถุดิบ
รสชาติที่ถูกปากลูกค้า

การเก็บรักษาซอสที่ถูกต้อง
หวังว่าสูตรและเคล็ดลับเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการทำซอสกะเพราขายสร้างอาชีพนะคะ


3
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: โรคแพนิก (Panic Disorder)

โรคแพนิก (Panic Disorder) หรือที่รู้จักกันในชื่อ โรควิตกกังวลแบบตื่นตระหนก เป็นภาวะทางจิตเวชชนิดหนึ่งในกลุ่มโรควิตกกังวล ที่มีลักษณะเด่นคือการเกิด อาการตื่นตระหนกอย่างรุนแรงและฉับพลัน (Panic Attack) ซ้ำๆ โดยไม่มีสิ่งกระตุ้นที่ชัดเจน หรือสถานการณ์ที่อันตรายจริง

อาการของโรคแพนิก
แกนหลักของโรคแพนิกคือ อาการตื่นตระหนก (Panic Attack) ซึ่งเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ผู้ป่วยรู้สึกกลัว กังวล และไม่สบายตัวอย่างรุนแรง โดยจะมีอาการทางร่างกายและจิตใจอย่างน้อย 4 อาการขึ้นไป เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว (มักจะถึงจุดสูงสุดภายใน 10 นาที) และมักจะหายไปเองภายใน 20-30 นาที (แต่อาจรู้สึกเหมือนนานกว่านั้นมาก) อาการเหล่านี้ได้แก่:

อาการทางร่างกาย:

ใจสั่น, ใจเต้นแรง, หัวใจเต้นเร็ว (Palpitations, pounding heart, or accelerated heart rate)

เหงื่อออกมาก (Sweating)

ตัวสั่น หรือรู้สึกกระตุก (Trembling or shaking)

รู้สึกหายใจไม่อิ่ม หรือหายใจลำบาก (Sensations of shortness of breath or smothering)

รู้สึกเหมือนจะสำลัก (Feeling of choking)

เจ็บหน้าอก หรือแน่นหน้าอก (Chest pain or discomfort)

คลื่นไส้ หรือปั่นป่วนในท้อง (Nausea or abdominal distress)

วิงเวียนศีรษะ, รู้สึกโคลงเคลง, มึนศีรษะ, หรือจะเป็นลม (Feeling dizzy, unsteady, light-headed, or faint)

หนาวสั่น หรือร้อนวูบวาบ (Chills or hot flushes)

อาการชา หรือรู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มตามร่างกาย (Paresthesias (numbness or tingling sensations))

อาการทางจิตใจ:

กลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้ หรือกลัวว่าจะเป็นบ้า (Fear of losing control or going crazy)

กลัวว่าจะตาย (Fear of dying)

รู้สึกไม่เป็นจริง (Derealization - รู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมไม่จริง) หรือรู้สึกเหมือนไม่ใช่ตัวเอง (Depersonalization - รู้สึกว่าตัวเองไม่จริง ไม่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย)

ลักษณะสำคัญของโรคแพนิก:

ผู้ป่วยจะถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคแพนิกก็ต่อเมื่อมี:

Panic attack เกิดขึ้นซ้ำๆ และไม่คาดคิด (Recurrent unexpected panic attacks): คือเกิดอาการโดยไม่มีสิ่งกระตุ้นที่ชัดเจน หรือไม่มีเหตุผลที่สมควร

มีความกังวลเกี่ยวกับการเกิดอาการซ้ำ (Anticipatory Anxiety): หลังจากมี Panic Attack ครั้งแรกแล้ว ผู้ป่วยจะเริ่มกังวลตลอดเวลาว่าจะเกิดอาการขึ้นอีก ทำให้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน

มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพื่อหลีกเลี่ยง: เช่น หลีกเลี่ยงสถานที่หรือสถานการณ์ที่เคยเกิด Panic Attack (เช่น ห้างสรรพสินค้า, รถติด, ที่ชุมชน) ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะกลัวที่โล่ง (Agoraphobia)


สาเหตุของโรคแพนิก

สาเหตุของโรคแพนิกยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน ได้แก่:


ปัจจัยทางชีวภาพ/พันธุกรรม:

ความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง: โดยเฉพาะสารเซโรโทนิน (Serotonin), นอร์เอพิเนฟริน (Norepinephrine), และ GABA (Gamma-aminobutyric acid) ที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์และความกังวล

การทำงานที่ผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติ: ซึ่งเป็นระบบที่ควบคุมการตอบสนองต่อความเครียด (Fight or Flight response)

พันธุกรรม: มีแนวโน้มที่จะถ่ายทอดทางพันธุกรรม หากมีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้


ปัจจัยทางจิตใจ/สภาพแวดล้อม:

ความเครียดรุนแรง: เหตุการณ์สำคัญในชีวิตที่ก่อให้เกิดความเครียดสูง เช่น การเสียชีวิตของคนรัก, การหย่าร้าง, ปัญหาการเงิน, การทำงานหนัก

ประสบการณ์ในวัยเด็ก: เช่น การถูกทอดทิ้ง, การถูกทำร้าย

พฤติกรรมการคิด: การตีความอาการทางกายภาพผิดไปจากความเป็นจริง (เช่น ใจสั่นนิดหน่อยก็คิดว่ากำลังจะหัวใจวาย) ทำให้เกิดความกังวลและอาการแพนิกมากขึ้น

การใช้สารเสพติด: โดยเฉพาะยาเสพติดกระตุ้นประสาท เช่น แอมเฟตามีน หรือการดื่มคาเฟอีนมากเกินไปในบางราย

การวินิจฉัยโรคแพนิก
แพทย์จะวินิจฉัยจาก:

การซักประวัติอย่างละเอียด: สอบถามอาการ ความถี่ ความรุนแรงของ Panic Attack และผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน

การตรวจร่างกาย: เพื่อแยกแยะภาวะทางกายที่อาจมีอาการคล้ายกัน เช่น โรคหัวใจ, โรคไทรอยด์เป็นพิษ, หอบหืด, หรือผลข้างเคียงจากยา/สารเสพติด

การประเมินทางจิตเวช: โดยจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา


การรักษาโรคแพนิก

โรคแพนิกเป็นโรคที่สามารถรักษาและควบคุมอาการได้ดี การรักษาหลักๆ มี 2 วิธีที่มักใช้ควบคู่กัน:


การรักษาด้วยยา (Pharmacotherapy):

ยาต้านเศร้า (Antidepressants): โดยเฉพาะกลุ่ม SSRIs (Selective Serotonin Reuptake Inhibitors) ซึ่งเป็นยาหลักในการรักษาโรคแพนิก ช่วยปรับสมดุลสารสื่อประสาทและลดความถี่และความรุนแรงของ Panic Attack ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่ายาจะออกฤทธิ์เต็มที่ และต้องรับประทานต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ

ยาคลายกังวล (Anxiolytics): เช่น กลุ่ม Benzodiazepines (เช่น Alprazolam, Lorazepam) ใช้เพื่อบรรเทาอาการเฉียบพลันของ Panic Attack เนื่องจากยาออกฤทธิ์เร็ว แต่ไม่ควรใช้ในระยะยาวเพราะอาจเกิดการติดยาได้ ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด


การบำบัดทางจิตใจ (Psychotherapy):

การบำบัดความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy - CBT): เป็นการบำบัดที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับโรคแพนิก ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจรูปแบบการคิดที่ผิดพลาด (เช่น การตีความอาการทางกายผิดๆ) และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลีกเลี่ยงที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีการฝึกเทคนิคผ่อนคลาย เช่น การหายใจคลายเครียด และการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่กลัวอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

การให้ความรู้เกี่ยวกับโรค (Psychoeducation): การทำความเข้าใจว่าโรคนี้เกิดจากอะไร อาการเป็นอย่างไร และสามารถรักษาได้ จะช่วยลดความกังวลของผู้ป่วยลงได้มาก


การดูแลตนเองและข้อควรปฏิบัติ:

หลีกเลี่ยงสารกระตุ้น: ลดหรือเลิกดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลมที่มีคาเฟอีน, แอลกอฮอล์, และงดสารเสพติด

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยลดความเครียดและปรับสมดุลสารเคมีในสมอง

ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย: เช่น การหายใจเข้าออกลึกๆ (Diaphragmatic breathing), โยคะ, การทำสมาธิ

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ:


รับประทานอาหารที่มีประโยชน์:

หลีกเลี่ยงการอยู่คนเดียว: ในช่วงแรกของอาการ หรือเมื่อรู้สึกกังวลมาก อาจลองอยู่กับคนที่ไว้ใจได้

โรคแพนิกเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยทุกข์ทรมานอย่างมาก แต่เป็นโรคที่รักษาได้ หากสงสัยว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดเป็นโรคแพนิก ควรรีบปรึกษาจิตแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมครับ


4
โพสฟรีออนไลน์ / ผ้ากันไฟคือวัสดุอะไร?
« เมื่อ: วันที่ 5 กรกฎาคม 2025, 19:23:24 น. »
ผ้ากันไฟคือวัสดุอะไร?

วัสดุสำหรับทำผ้ากันไฟมีมากมายวัสดุเหล่านี้สามารถทนต่อเปลวไฟและอุณหภูมิสูงได้ในระดับหนึ่งวัสดุผ้ากันไฟทั่วไป ได้แก่ ใยแก้วใยเซรามิกหินบะซอลต์อะรามิดใยหินเป็นต้นใยหินเป็นมลพิษและสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่งดังนั้นหลายประเทศจึงห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับแร่ใยหินนอกจากนี้บรรณาธิการยังแนะนำว่าอย่าใช้แร่ใยหินซึ่งเป็นวัสดุที่ก่อให้เกิดมลพิษและก่อมะเร็งในประเทศจีนวัสดุผ้ากันไฟที่ใช้มากที่สุดควรเป็นใยแก้วหินบะซอลต์อะรามิดเป็นต้น

ผ้ากันไฟสามารถบรรลุผลการใช้งานที่แตกต่างกันผ่านการเคลือบหรือการบำบัดแบบผสมที่แตกต่างกัน (เช่นซิลิโคน, PU, ​​PVC, อลูมิเนียมฟอยล์, PTFE, กราไฟต์, เวอร์มิคูไลท์, อะคริลิก, แคลเซียมซิลิเกต, ยางฟลูออรีน, ซิลิกาสูง ฯลฯ ) เช่น ทนไฟ, กันน้ำ, ทนต่อการสึกหรอ, มีความแข็งแรงสูง, ลดการระคายเคืองต่อผิวหนังของมนุษย์, การปิดผนึก, การป้องกันการกัดกร่อน, ความต้านทานต่อน้ำมัน, ความต้านทานต่ออายุ, ความต้านทานต่อสภาพอากาศ, ความต้านทานต่อโอโซน, ความต้านทานรังสีอัลตราไวโอเลต, การสะท้อนความร้อน, ทนต่ออุณหภูมิสูงและผลการเก็บรักษาความร้อนที่ดี

ในอุตสาหกรรมผ้ากันไฟ ผ้าใยแก้วเคลือบยางซิลิโคนหรือที่เรียกกันทั่วไปว่าผ้าซิลิโคนเป็นที่นิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายใช้ผ้าใยแก้วที่ทนความร้อนสูงและทนไฟชุบหรือเคลือบด้วยยางซิลิโคนโดยทั่วไปใช้ผ้าซิลิโคนสำหรับม่านควันม่านกันไฟแจ็คเก็ตฉนวนกันความร้อนที่ถอดออกได้ผ้าห่มเชื่อมผ้าห่มกันไฟเสื่อหลุมไฟเสื่อถ่านข้อต่อการขยายตัวของผ้าท่อระบายอากาศและการใช้งานอื่นผ้าไม่ลามไฟเคลือบมีหลากหลายสีคุณสามารถเลือกสีของผ้าเคลือบสารหน่วงไฟที่เหมาะสมได้ตามการใช้งานของคุณนอกจากนี้คุณต้องเลือกผ้ากันไฟเคลือบด้านเดียวและสองด้านตามการใช้งานจริงสีทั่วไป ได้แก่ สีแดงสีเทาสีดำสีขาวสีเหลืองสีฟ้าสีเขียวสีปลาแซลมอนเป็นต้นหากอุณหภูมิทนไฟสูงกว่า 550 องศาแนะนำให้ใช้ผ้าซิลิกาสูงหรือผ้าใยแก้วเคลือบเวอร์มิคูไลท์หรือผ้าใยแก้วเคลือบกราไฟต์ .

 เมื่อคุณซื้อผ้ากันไฟคุณต้องเลือกผ้ากันไฟที่เหมาะสมตามการใช้งานจริงเช่นการทำผ้าห่มกันไฟปลอกฉนวนแบบถอดได้คุณสามารถเลือกผ้ากันไฟที่ไม่เคลือบผิวและผ้ากันไฟเคลือบเพื่อทำเช่นการทำ ท่อกระจายลมผ้า, ข้อต่อการขยายตัวของผ้า, ขั้วต่อที่ยืดหยุ่นคุณสามารถเลือกผ้าทนไฟพร้อมเคลือบทั้งสองด้าน

5
วิธีการเตรียม อาหารปั่นผสม อาหารสายยาง อาหารสุขภาพ ให้ผู้ป่วย !

อาหารสายยาง อาหารปั่นผสม ที่เป็น อาหารสุขภาพ จัดเป็นอาหารทางการแพทย์ที่ต้องมีนักโภชนาการคอยดูแลในเรื่องของการผลิตอาหาร รวมไปถึงขั้นตอนการเตรียมอาหารปั่นผสม อาหารปั่นผสมจะประกอบด้วยสารอาหารหลายชนิดและครบ 5 หมู่ และต้องนำวัตถุดิบทั้งหมดมาทำให้สุกและปั่นรวมกัน โดยต้องคำนึงเรื่องของสัดส่วนที่เหมาะกับร่างกายผู้ป่วยด้วย

ซึ่งนักโภชนนาการจะเป็นผู้กำหนด และต้องเก็บรักษาให้ถูกวิธีด้วย ซึ่งขั้นตอนการเตรียมอาหารปั่นผสม ทุกอย่างต้องสะอาด ตั้งแต่ภาชนะที่บรรจุอาหาร ผู้ที่จะทำการเตรียมอาหารปั่นผสสม ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง เพื่อป้องกันการปนเปื้อน รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมด้วย โดยอาหารปั่นผสมของเรามีการผลิตในห้องปลอดเชื้อของโรงพยาบาล จึงมั่นใจได้ในเรื่องของความสะอาด

ดังนั้นการจัดเตรียมจึงมีความสำคัญมากสำหรับการให้อาหารทางสายยาง ขั้นแรกของการเตรียมอาหารปั่นผสม ก็คือ การจัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ได้แก่ อาหารปั่นผสม เหยือกบรรจุอาหารหรือถุงใส่อาหาร ถาดวางอาหาร และน้ำสำหรับผู้ป่วย ควรล้างมือผู้ดูแลก่อนการเตรียมอาหารสำหรับผู้ป่วย ตรวจสอบความสะอาดของภาชนะบรรจุอาหาร โดยนำเหยือกใส่อาหาร หรือถุงใส่อาหารมาลวกน้ำร้อน แล้วเทน้ำร้อนทิ้ง หลังจากนั้นก็ตรวจสอบอุณหภูมิของอาหารปั่นผสม โดยใช้ช้อนสะอาดตักอาหารเล็กน้อย หยดลงบนหลังมือ หากพบว่าอุ่นแล้ว จึงสามารถนำอาหารไปให้ผู้ป่วยได้

ในกรณีที่อาหารปั่นผสมได้แช่ในตู้เย็นไว้ จะต้องนำอาหารปั่นผสมมาตั้งละลายด้วยอุ่นด้วยน้ำร้อนเพื่อให้อาหารมีอุณหภูมิที่เหมาะสมที่จะให้ผู้ป่วยสามารถรับประทานได้ หลังจากนั้นนำอาหารปั่นผสมเทลงในเหยือก ตามปริมาณที่กำหนดตามแผนการดูแล เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรเก็บอุปกรณ์ล้างทำความสะอาด และล้างมือให้สะอาดหลังจากเก็บอุปกรณ์ และนำอาหารปั่นผสมไปให้ผู้ป่วย

ทั้งหมดนี้คือขั้นตอนของการเตรียมอาหารปั่นผสม เพื่อที่จะนำไปให้ผู้ป่วย จะสังเกตได้ว่าทุกขั้นตอนจะต้องมีความสะอาด เพราะเราต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยด้วยหลังจากได้รับอาหารแล้ว

6
Doctor At Home: ไขสันหลังอักเสบเฉียบพลัน (Acute Transverse Myelitis - ATM)

ไขสันหลังอักเสบเฉียบพลัน (Acute Transverse Myelitis - ATM) เป็นภาวะทางระบบประสาทที่ค่อนข้างหายาก แต่มีความรุนแรง เกิดจากการอักเสบของไขสันหลังในส่วนใดส่วนหนึ่ง ทำให้การส่งกระแสประสาทถูกขัดขวาง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายในส่วนที่อยู่ต่ำกว่าระดับที่อักเสบลงไปอย่างฉับพลัน

อาการที่พบบ่อย

อาการของไขสันหลังอักเสบเฉียบพลันมักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือหลายวัน และอาจเป็นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยทั่วไปอาการจะส่งผลกระทบต่อร่างกายทั้งสองข้าง แต่บางกรณีก็อาจเกิดเพียงข้างเดียว อาการหลักๆ ได้แก่:

อาการปวด: อาจเริ่มจากอาการปวดหลังส่วนล่างอย่างฉับพลัน และอาจปวดร้าวลงไปตามแขน ขา หน้าอก หรือท้อง อาการปวดจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งของไขสันหลังที่อักเสบ

ความผิดปกติของการรับความรู้สึก: รู้สึกชา, เจ็บแปลบ, ร้อนหรือเย็นผิดปกติ, รู้สึกเหมือนมีอะไรมารัดแน่นที่หน้าอก ท้อง หรือขา อาจไวต่อการสัมผัสเพียงเล็กน้อย หรือการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิมากผิดปกติ

อ่อนแรงของแขนขา: รู้สึกหนักที่ขา เดินเซ ลากเท้า หรืออาจมีอาการอ่อนแรงรุนแรงจนกระทั่งเป็นอัมพาตบางส่วนหรือทั้งหมดของแขน ขา หรือทั้งสองข้าง

ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะและลำไส้: ปัสสาวะบ่อยขึ้น กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะลำบาก หรือท้องผูก

อาการอื่นๆ ที่อาจพบร่วมด้วย: ไข้, ปวดศีรษะ, ปวดคอ, เบื่ออาหาร, ปัญหาการหายใจ (ในกรณีที่การอักเสบเกิดขึ้นในไขสันหลังส่วนคอ)


สาเหตุ

ส่วนใหญ่แล้วมักไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน แต่เชื่อว่าเกิดจากปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ผิดปกติไปโจมตีไขสันหลังของตัวเอง ซึ่งอาจเกิดตามหลังภาวะต่างๆ เหล่านี้:

การติดเชื้อ: เช่น การติดเชื้อไวรัส (เริม, อีสุกอีใส, งูสวัด, หัดเยอรมัน, ไข้หวัดใหญ่, เอนเทอโรไวรัส) หรือแบคทีเรีย (วัณโรค, ซิฟิลิส, ไมโคพลาสมา)

โรคภูมิต้านทานตนเอง: เช่น โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis - MS), โรคนิวโรมัยอิไลติส ออพติกา (Neuromyelitis Optica - NMO), หรือโรคเอสแอลอี (Systemic Lupus Erythematosus - SLE)

หลังการได้รับวัคซีนบางชนิด: ซึ่งพบได้น้อยมาก

ภาวะไขสันหลังขาดเลือด: เช่น หลอดเลือดอักเสบ หรือมีลิ่มเลือดอุดตัน

มะเร็งบางชนิด: อาจกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกัน


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและประวัติทางการแพทย์ ร่วมกับการตรวจเพิ่มเติมดังนี้:

การตรวจร่างกายทางระบบประสาท: ประเมินการทำงานของระบบประสาท การรับความรู้สึก และกำลังกล้ามเนื้อ

การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ของไขสันหลังและสมอง: เพื่อดูการอักเสบของไขสันหลัง และแยกแยะสาเหตุอื่นๆ ที่อาจกดทับไขสันหลัง

การเจาะน้ำไขสันหลัง (Lumbar Puncture / Spinal Tap): เพื่อตรวจหาสัญญาณของการอักเสบ เช่น จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เพิ่มขึ้น หรือโปรตีนในน้ำไขสันหลัง

การตรวจเลือด: เพื่อระบุสาเหตุที่เป็นไปได้ เช่น การติดเชื้อ หรือภาวะภูมิต้านทานตนเอง (เช่น ตรวจหาแอนติบอดีที่เกี่ยวข้องกับโรค NMO)


การรักษา

การรักษาไขสันหลังอักเสบเฉียบพลันมักมุ่งเน้นไปที่การลดการอักเสบ การจัดการอาการ และการฟื้นฟูสมรรถภาพ:

คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids): เช่น Prednisolone มักให้ทางหลอดเลือดดำในปริมาณสูงเพื่อลดการอักเสบ

การเปลี่ยนถ่ายพลาสมา (Plasma Exchange - PLEX): ในบางกรณีที่ไม่ตอบสนองต่อสเตียรอยด์ อาจพิจารณาการเปลี่ยนถ่ายพลาสมาเพื่อกำจัดแอนติบอดีที่เป็นอันตรายออกจากเลือด


การรักษาตามอาการ:

ยาแก้ปวด: สำหรับอาการปวด

ยาคลายกล้ามเนื้อ: สำหรับอาการกล้ามเนื้อเกร็ง

การจัดการปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะและลำไส้: เช่น การสวนปัสสาวะ หรือยาระบาย

กายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัด: มีความสำคัญอย่างยิ่งในการฟื้นฟูการเคลื่อนไหว ความแข็งแรง และช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้มากที่สุด


ภาวะแทรกซ้อน

ผลการรักษาไขสันหลังอักเสบเฉียบพลันไม่แน่นอน บางรายอาจฟื้นตัวได้เต็มที่ แต่หลายรายก็ยังคงมีภาวะแทรกซ้อนหลงเหลืออยู่:

อาการปวดเรื้อรัง: เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยและอาจทำให้คุณภาพชีวิตลดลง

กล้ามเนื้อเกร็ง (Muscle Spasticity): โดยเฉพาะที่สะโพกและขา

อัมพาตบางส่วนหรือทั้งหมด: อาจยังคงมีอาการอ่อนแรง หรืออัมพาตหลงเหลืออยู่หลังอาการเฉียบพลัน

ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะและลำไส้: อาจมีปัญหาต่อเนื่อง เช่น กลั้นปัสสาวะ/อุจจาระไม่อยู่

ปัญหาทางเพศ: อาจมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

แผลกดทับ: จากการเคลื่อนไหวได้น้อยลง

การติดเชื้อ: โดยเฉพาะการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

ภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวล: ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนเรื้อรัง หรือการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต

หากมีอาการที่สงสัยว่าเป็นไขสันหลังอักเสบเฉียบพลัน ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นภาวะเร่งด่วนที่ต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงทีเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

7
งานฝีมือ การทำเทียนหอม ช่วยผ่อนคลาย

การทำเทียนหอมเป็นกิจกรรมที่สนุกและผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ ไม่เพียงแต่คุณจะได้เทียนหอมไว้ใช้เองหรือเป็นของขวัญที่ทำจากใจ แต่กระบวนการทำเทียนหอมเองก็เป็นเหมือนการบำบัดอย่างหนึ่งที่ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลายได้ดีเลยทีเดียว

ทำไมการทำเทียนหอมถึงช่วยผ่อนคลาย?

การมีสมาธิจดจ่อ: การทำเทียนหอมต้องใช้ความใส่ใจในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการตวงส่วนผสม การละลายไข การหยดน้ำหอม หรือการจัดวางไส้เทียน การจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าจะช่วยดึงความสนใจของคุณออกจากความกังวลหรือความคิดฟุ้งซ่านต่างๆ ทำให้จิตใจสงบลงได้

การใช้ประสาทสัมผัส: การได้สัมผัสกับไขเทียนที่หลอมละลาย กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยที่ค่อยๆ ผสมผสานกัน และสีสันที่เลือกใช้ ล้วนกระตุ้นประสาทสัมผัสต่างๆ ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและเพลิดเพลิน

การควบคุมและสร้างสรรค์: การได้เลือกกลิ่น สี และภาชนะด้วยตัวเอง ทำให้คุณรู้สึกถึงการควบคุมและเป็นเจ้าของผลงาน การสร้างสรรค์สิ่งสวยงามด้วยสองมือตัวเองเป็นความรู้สึกที่น่าพึงพอใจและช่วยลดความเครียดได้

ความรู้สึกถึงความสำเร็จ: เมื่อเทียนหอมแข็งตัวและพร้อมใช้งาน การได้เห็นผลงานที่สมบูรณ์แบบด้วยน้ำมือของคุณเองเป็นความรู้สึกที่ดีเยี่ยม ทำให้เกิดความภาคภูมิใจและผ่อนคลาย

ประโยชน์ของกลิ่นหอม: แน่นอนว่าเมื่อเทียนหอมจุดติด กลิ่นหอมที่อบอวลออกมาก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยในการผ่อนคลายโดยตรง โดยเฉพาะกลิ่นจากน้ำมันหอมระเหยแท้ๆ ที่มีคุณสมบัติในการบำบัด (Aromatherapy)

เริ่มต้นทำเทียนหอมง่ายๆ ด้วยตัวเอง
คุณสามารถทำเทียนหอมได้ง่ายๆ ที่บ้านด้วยอุปกรณ์ไม่กี่อย่าง:


อุปกรณ์หลัก:

ไขเทียน:

ไขถั่วเหลือง (Soy Wax): เป็นที่นิยมมากที่สุดเพราะเป็นธรรมชาติ เผาไหม้สะอาด และยึดเกาะกลิ่นได้ดี

ไขพาราฟิน (Paraffin Wax): หาซื้อง่าย ราคาถูก เผาไหม้ดี แต่เป็นผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม

ไขปาล์ม (Palm Wax): เป็นธรรมชาติ เผาไหม้ช้า ให้ความเงางาม

ไขผึ้ง (Beeswax): เป็นธรรมชาติ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ในตัว เผาไหม้นาน

ไส้เทียน: เลือกขนาดให้เหมาะสมกับเส้นผ่านศูนย์กลางของภาชนะ เพื่อให้การเผาไหม้สมบูรณ์

ภาชนะ: แก้วเซรามิก แก้วใส ถ้วยโลหะ หรือภาชนะทนความร้อนอื่นๆ ที่คุณชอบ (ตรวจสอบให้แน่ใจว่าภาชนะทนความร้อนและไม่แตกง่าย)

น้ำหอม/น้ำมันหอมระเหย (Fragrance Oil / Essential Oil): เลือกกลิ่นที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น ลาเวนเดอร์, คาโมมายล์, ส้ม, ไม้จันทน์, มะลิ

หม้อตุ๋น/หม้อสองชั้น (Double Boiler): สำหรับละลายไขเทียน เพื่อหลีกเลี่ยงการไหม้โดยตรง

เทอร์โมมิเตอร์สำหรับวัดอุณหภูมิ: (ถ้ามีจะช่วยให้ได้คุณภาพดีขึ้น) สำหรับวัดอุณหภูมิของไขเทียน

ที่หนีบไส้เทียน/ไม้หนีบ/ดินสอ: สำหรับยึดไส้เทียนให้อยู่ตรงกลาง


ขั้นตอนการทำ (แบบง่ายๆ):

เตรียมไส้เทียน: ติดฐานไส้เทียนลงไปที่ก้นภาชนะด้วยกาว หรือกาวสองหน้าชนิดพิเศษ จากนั้นใช้ที่หนีบไส้เทียนหรือดินสอพาดปากภาชนะเพื่อยึดไส้เทียนให้อยู่ตรงกลางและตั้งตรง

ละลายไขเทียน: ตวงไขเทียนตามปริมาณที่ต้องการ (ประมาณ 1.5 เท่าของปริมาตรภาชนะเมื่อเป็นไขแข็ง) นำไปละลายในหม้อตุ๋นด้วยไฟอ่อนๆ ค่อยๆ คนจนไขละลายหมด

เติมน้ำหอม/สี (ถ้าต้องการ): เมื่อไขละลายหมดแล้ว ปล่อยให้อุณหภูมิของไขลดลงเล็กน้อย (ประมาณ 75-85 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับชนิดของไข) จากนั้นหยดน้ำหอมหรือน้ำมันหอมระเหยตามอัตราส่วนที่แนะนำ (ปกติ 6-10% ของน้ำหนักไข) คนให้เข้ากัน หากต้องการสี ให้เติมสีสำหรับทำเทียนแล้วคนให้ละลาย

เทไขเทียน: ค่อยๆ เทไขเทียนที่ผสมแล้วลงในภาชนะที่เตรียมไว้ ระวังอย่าให้ไส้เทียนขยับ

รอให้แข็งตัว: ปล่อยให้เทียนแข็งตัวที่อุณหภูมิห้อง ใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมง หรือข้ามคืน

ตัดไส้เทียน: เมื่อเทียนแข็งตัวดีแล้ว ตัดไส้เทียนให้มีความยาวประมาณ 0.5 - 1 เซนติเมตร เหนือผิวน้ำเทียน

เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เทียนหอมฝีมือตัวเองที่พร้อมจุดเพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลายแล้วค่ะ การทำเทียนหอมไม่เพียงแต่เป็นงานอดิเรกที่เพลิดเพลิน แต่ยังเป็นวิธีที่ดีในการบำบัดจิตใจและสร้างความสุขให้กับตัวเองและคนที่คุณรักด้วยค่ะ








8
จัดฟันบางนา: เผยวิธี จัดฟันแบบใส ให้เหมาะกับคุณ !

การจัดฟันแบบใส เป็นการใส่เครื่องมือจัดฟันที่ถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล โดยการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบเครื่องมือจัดฟัน ซึ่งจะทำมาจากพลาสติกที่ผิวเรียบและบาง ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในช่องปาก ไม่ทำให้บาดและทำให้เกิดบาดแผล และยังสามารถมองเห็นได้ยาก ถอดออกง่าย ไม่ต้องใช้แรงเยอะ ทั้งยังเวลารับประทานอาหารหรือการแปรงฟัน ก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกลัวว่าเครื่องมือจะเกิดการชำรุด

นอกจากนี้ การจัดฟันแบบใส ยังใช้ระยะเวลาในการจัดฟันน้อยกว่าการจัดฟันแบบทั่วไปที่ใช้เหล็กจัดฟัน แถมยังทำให้เกิดการระคายเคืองช่องปากและไม่สามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย จึงต้องระมัดระวังในเรื่องของการรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันการทำให้เหล็กจัดฟันหลุด สำหรับการจัดฟันแบบใส โดยเครื่องมือการจัดฟันในแต่ละชุดของเครื่องมือจะค่อยๆ จัดเรียงฟันให้เคลื่อนไปยังตำแหน่งที่ถูกกำหนดไว้ด้วยแรงน้อยๆ ตามแผนการรักษาของทันตแพทย์ผู้ทำการรักษา สำหรับการเคลื่อนตัวของฟันในการจัดฟันแบบใสนั้น จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาการใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใสด้วย เพราะการใส่เครื่องมือตามระยะเวลาทีทันตแพทย์กำหนดคือ 20-22 ชั่วโมง จะช่วยให้ผลการรักษาเป็นไปตามที่กำหนดไว้

ซึ่งการจัดฟันแบบใสนี้มีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ ได้แก่ จัดฟันแบบใส invisalign full ซึ่งจะมีเครื่องมือจัดฟันตั้งแต่ 15 ชิ้นขึ้นไป เหมาะกับผู้เข้ารับการรักษาที่มีสภาพฟันที่ซ้อนเกค่อนข้างมาก มีปัญหาฟันที่ค่อนข้างเยอะ และมีความซับซ้อนในการรักษา โดยใช้ระยะเวลาในการจัดฟันตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้ทุกกรณี ต่อมา จัดฟันใส invisalign lite มีเครื่องมือจัดฟัน 7-14 ชิ้น เหมาะกับผู้เข้ารับการรักษาที่เคยผ่านการจัดฟันมาแล้ว มีสภาพฟันที่มีความซ้อนเกเพียงเล็กน้อย หรือเคยผ่านการจัดฟันมาแล้วแต่ไม่ใส่รีเทนเนอร์ จึงทำให้เกิดฟันห่าง เรียงตัวกันไม่สวยงาม

โดยมีระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 4 เดือน และสุดท้ายการจัดฟันใส invisalugn i7 จะใช้เครื่องมือการจัดฟันเพียง 7 ชิ้น เหมาะกับผู้เข้ารับการรักษาที่เคยผ่านการจัดฟันมาแล้ว มีสภาพฟันที่มีการซ้อนเกเพียงเล็กน้อย โดยทันตแพทย์จะช่วยรักษา เรียงตัวฟันให้เข้ารูปเป็นปกติและสวยงาม โดยใช้ระยะเวลาในการจัดฟันไม่นานประมาณ 2-3 เดือนเท่านั้น ซึ่งการจัดฟันในรูปแบบต่างๆก็จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทันตแพทย์ว่า ผู้เข้ารับการรักษามีปัญหาฟันในด้านใด มีปัญหามากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงระยะเวลาในการรักษาก็จะขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคลด้วย นอกจากนี้การดูแลความสะอาดและการมีวินัยในเรื่องของการสวมใส่เครื่องมือก็ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อผลการรักษาที่ดี และเพื่อทำให้การรักษาเป็นไปตามแผนที่ทันตแพทย์ได้กำหนดไว้

อย่างไรก็ตาม การจัดฟันแบบใส จะช่วยสร้างรอยยิ้มให้ผู้เข้ารับการรักษามีความสวยงาม และมั่นใจมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นไม่ควรปล่อยให้ปัญหาฟันเก ฟันซ้อน ฟันห่าง ทำลายความมั่นใจและบุคลิกภาพของคุณ ซึ่งในปัจจุบัน การจัดฟันแบบใส กำลังเป็นที่นิยมและมีหลายแบบ แต่ผู้เข้ารับการรักษาจะเหมาะกับการจัดฟันแบบใสในรูปแบบใด ก็จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทันตแพทย์และสภาพ ปัญหาของผู้เข้ารับการรักษา

นอกจากนี้การจัดฟันแบบใส ยังเหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ง่ายต่อการดูแลรักษาสุขอนามัยในช่องปากและฟัน ให้ความรู้สึกสบายไม่ระคายเคืองช่องปาก ไม่ทำให้เกิดบาดแผล เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบัน ช่วยเสริมบุคลิกและสร้างความมั่นใจ ทำให้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยการนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เข้ากับยุคสมัย การจัดฟันแบบใสนี้ยังสามารถทำให้ผู้เข้ารับการรักษาเห็นแผนการรักษาเสมือนจริงได้ ด้วยระบบ 3D ที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ก่อนเข้ารับการจัดฟัน จนไปถึงการจัดฟันเสร็จสมบูรณ์ตามระยะเวลาที่ทันตแพทย์ได้กำหนด และยังได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพฟันอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย

9
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


10
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


11
คอนโดติดรถไฟฟ้า เอไลฟ์ สุขุมวิท 76 (Alive Sukhumvit 76)
เริ่มต้น 1.49 ลบ.

เอไลฟ์ สุขุมวิท 76 (Alive Sukhumvit 76)
คอนโดใหม่ Low-Rise จัดเต็มทุกฟังก์ชันและดีไซน์ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ Facitities ครบ!! สระว่ายน้ำ ฟิตเนส พร้อมสวนดาดฟ้า เดินทางง่ายใกล้ BTS แบริ่ง, BTS สำโรง, ใกล้ทางด่วนกาญจนาภิเษก, ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถี

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ              เอไลฟ์ สุขุมวิท 76 (Alive Sukhumvit 76)
 เจ้าของโครงการ         เอ เบสท์ เอสเตท
 ราคา                      เริ่มต้น 1.49 ลบ.

 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.       โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะทำเล              คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด            Low Rise (ไม่เกิน 8 ชั้น)
 ลักษณะกรรมสิทธิ์        โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี          1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน
 ขนาดห้องที่มี            ตั้งแต่ 28.00 ถึง 68.00 ตร.ม.
 เนื้อที่ทั้งหมด            2 ไร่ 3 งาน 13 ตร.ว.
 จำนวนตึก                2 อาคาร
 จำนวนชั้น               8 ชั้น
 จำนวนห้อง              375 ยูนิต
 ที่จอดรถทั้งหมด       123 คัน (รวมที่จอดจักรยานยนต์)
 ค่าบำรุงส่วนกลาง      โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สาธารณูปโภค          สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., กล้องวงจรปิดโครงการ, ประตู Key Card, อื่นๆ (Party Room,Co- Kitchen, Game Room), Co-Working Space

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน             สมุทรปราการ, บางพลี, บางบ่อ, พระประแดง
 ที่ตั้ง             ซอย สุขุมวิท 76 ตำบล สำโรง อำเภอพระประแดง สมุทรปราการ 10270

 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:                 ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม, สถานีหมอชิต - แบริ่ง(แบริ่ง), ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม, สถานี(แบริ่ง - บางปู)(สำโรง)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
อิมพีเรียลเวิล
บิ๊กซีสำโรง
ไบเทค บางนา
เซนทรัล บางนา
เมกา บางนา
101 True Digital Park
โรงเรียนอัสสัมชันสมุทรปราการ
โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์

12
Doctor At Home: กระจกตาอักเสบ (Keratitis) - แผลกระจกตา (Corneal ulcer)

กระจกตา (ตาดำ) อาจเกิดการอักเสบหรือเป็นแผลได้ เป็นภาวะที่พบได้เป็นครั้งคราวในคนทุกวัย บางครั้งอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้สายตาพิการหรือตาบอดได้

สาเหตุ

กระจกตาอักเสบ มักเกิดจากการติดเชื้อ ได้แก่ เชื้อไวรัส (ที่พบบ่อย คือ เริม งูสวัด ไวรัสอะดิโน หัด) แบคทีเรีย (เช่น สเตรปโตค็อกคัส สแตฟีโลค็อกคัส สูโดโมแนส ริดสีดวงตา วัณโรค โรคเรื้อน ซิฟิลิส) เชื้อรา (เช่น แคนดิดา แอสเปอร์จิลลัส) เชื้อโปรโตซัว (เช่น acanthamoeba ซึ่งมีอยู่ในน้ำสกปรก)

นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากภาวะตาแห้ง (มักเกิดจากต่อมน้ำตาสร้างน้ำตาไม่ได้ บางรายอาจเกิดจากภาวะผิดปกติของสารประกอบของน้ำตาที่ทำให้ระเหยง่าย หรือพบร่วมกับโรคภูมิต้านตนเอง เช่น เอสแอลอี โรคปวดข้อรูมาตอยด์) การถูกแสงแดดหรือแสงอัลตราไวโอเลต การระคายเคืองจากการใช้เลนส์สัมผัสหรือยาหยอดตา การแพ้ยาและกลุ่มอาการสตีเวนส์จอห์นสัน ภาวะขนตาเก (ขนตาแยงเข้าด้านในถูถูกกระจกตา) ผิวกระจกตาแห้งเนื่องจากปิดหนังตาไม่มิด (เช่น อัมพาตเบลล์ ภาวะตาโปนในโรคคอพอกเป็นพิษ)

แผลกระจกตา มักจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือโปรโตซัว (เช่น acanthamoeba) ภายหลังกระจกตาได้รับบาดเจ็บ (เช่น ถูกใบหญ้าหรือพืชผักบาด สิ่งแปลกปลอมเข้าไปฝังที่กระจกตา) หรือจากการใช้เลนส์สัมผัสที่ไม่ถูกวิธี (เช่น ใส่เลนส์สัมผัสขณะนอนหลับ ใส่เลนส์สัมผัสที่แปดเปื้อนเชื้อ หรือแช่ในน้ำยาที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการฆ่าเชื้อ) หรือจากการติดเชื้อไวรัส (ที่สำคัญ คือ เริมและงูสวัด)

นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากกระจกตามีภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น การใช้ยาหยอดตาสเตียรอยด์นาน ๆ) โรคขาดวิตามินเอ หรือเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคริดสีดวงตา เยื่อตาขาวอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ตาอักเสบจากเชื้อหนองใน และกระจกตาอักเสบจากสาเหตุต่าง ๆ

อาการ

ในระยะที่กระจกตามีการอักเสบหรือเป็นแผลใหม่ ๆ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตา เคืองตา หรือรู้สึกคล้ายผงเข้าตา กลัวแสง น้ำตาไหล ตาแดง ตาพร่ามัว อาจมีขี้ตาสีเหลืองหรือเขียว

ภาวะแทรกซ้อน

กระจกตาอักเสบที่รุนแรงอาจกลายเป็นแผลกระจกตา ซึ่งถือว่าเป็นภาวะร้ายแรง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจมีภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา

ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ เช่น

ในระยะที่มีการติดเชื้ออักเสบ เชื้อโรคอาจกินทะลุชั้นของกระจกตาเข้าไป ทำให้เกิดการอักเสบภายในลูกตาอาจกลายเป็นม่านตาอักเสบ มีหนองขังอยู่ในช่องลูกตาหน้า (hypopyon) ลูกตาอักเสบทั่วไป (panophthalmitis) จนตาเสียได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกิดจากเชื้อรา มักจะมีความรุนแรงมาก

ในระยะที่การอักเสบทุเลาลงแล้ว แผลกระจกตาก็อาจกลายเป็นแผลเป็นลักษณะขุ่นขาว เรียกว่า ต้อลำไย (corneal leukoma) ทำให้ตามองเห็นไม่ถนัด ถ้าแผลเป็นมีขนาดใหญ่และอยู่ตรงกลางตาดำ บดบังสายตา ก็จะทำให้มองเห็นหรือสายตาพิการ

บางรายอาจกลายเป็นสายตาเอียง

การวินิจฉัย

แพทย์จะให้การวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

มักตรวจพบอาการตาแดงที่บริเวณรอบ ๆ ตาดำ และขี้ตาสีเหลืองหรือเขียว

ในรายที่มีแผลกระจกตา มักพบกระจกตาขุ่นหรือเป็นแผล อาจพบภาวะมีหนองขังอยู่ในช่องลูกตาหน้า (hypopyon) หนังตาบนบวม รูม่านตาหดเล็ก

แพทย์จะตรวจหาสาเหตุโดยใช้เครื่องมือส่องตรวจตา ทำการย้อมสีด้วยวิธี fluorescein staining และทำการตรวจหาเชื้อด้วยการย้อมเชื้อหรือเพาะเชื้อ

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

แพทย์จะให้การรักษาตามสาเหตุ เช่น ให้ยาปฏิชีวนะในรายที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ให้ยาต้านไวรัสในรายที่เกิดจากเชื้อไวรัส หรือให้ยาฆ่าเชื้อราในรายที่เกิดจากเชื้อรา

นอกจากนี้อาจต้องให้ยาหยอดตาอะโทรพีน ชนิด 1% เช่นเดียวกับการรักษาโรคม่านตาอักเสบ

ถ้ามีภาวะแทรกซ้อนก็ให้การแก้ไข

ส่วนในรายที่การอักเสบทุเลาลงแล้ว แต่กลายเป็นแผลเป็น (ต้อลำไย) ทำให้สายตาพิการ แต่พบว่าประสาทตายังเป็นปกติดี อาจต้องทำการผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา (corneal transplantation) โดยตัดเอาส่วนที่เป็นแผลเป็นออกไป แล้วเอากระจกตาที่ปกติของผู้บริจาคมาใส่แทน จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับเห็นเหมือนปกติได้ (การผ่าตัดเปลี่ยนตา ก็หมายถึงการผ่าตัดชนิดนี้ ไม่ใช่หมายถึงเปลี่ยนลูกตาทั้งลูก ซึ่งยังเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้)

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดตา น้ำตาไหล ตาแดง ตาพร่ามัว มีขี้ตาสีเหลืองหรือเขียว ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นกระจกตาอักเสบ/แผลกระจกตา ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลา
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ควรหาทางป้องกันแผลกระจกตา ดังนี้

    เมื่อพบว่าเป็นโรคเริมหรืองูสวัดที่บริเวณตา ให้รีบส่งไปโรงพยาบาลเพื่อให้ยาต้านไวรัสรักษาโดยเร็ว
    ระวังอย่าให้ถูกใบหญ้าหรือพืชผักบาดตา หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา ถ้าทำงานที่เสี่ยงต่อปัญหานี้ ควรสวมหน้ากากหรือแว่นตาป้องกัน
    หลีกเลี่ยงการใช้ยาหยอดตาสเตียรอยด์โดยไม่จำเป็น
    ผู้ที่ใช้เลนส์สัมผัส ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยงการใส่เลนส์สัมผัสขณะนอนหลับ

ข้อแนะนำ

กระจกตาอักเสบหรือเป็นแผล จะมีอาการตาแดงหรือมีขี้ตาคล้ายเยื่อตาขาวอักเสบจากแบคทีเรียหรือไวรัส แต่จะมีอาการปวดตา เคืองตารุนแรงกว่า และมีอาการตาพร่ามัวร่วมด้วย ควรซักถามอาการให้ละเอียด และตรวจดูกระจกตาว่ามีลักษณะขุ่นมัวหรือเป็นแผลหรือไม่ หากมีประวัติและอาการที่ชวนสงสัยว่าเป็นแผลกระจกตา ควรส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลหรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด่วน

13
กาารขายของออนไลน์ เป็นอาชีพเสริม ควรมีอะไรบ้าง

การขายของออนไลน์เป็นอาชีพเสริมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูง สามารถทำได้จากที่บ้าน และมีโอกาสสร้างรายได้เสริมได้ดี อย่างไรก็ตาม การขายของออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จนั้นต้องมีการเตรียมตัวและวางแผนอย่างรอบคอบ ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรมีสำหรับการขายของออนไลน์เป็นอาชีพเสริม:

1. สินค้าหรือบริการ:

เลือกสินค้าที่ใช่:
เลือกสินค้าที่คุณมีความรู้ความเข้าใจ หรือมีความสนใจเป็นพิเศษ
ศึกษาความต้องการของตลาด และเลือกสินค้าที่มีโอกาสขายได้
พิจารณาต้นทุน กำไร และความสามารถในการจัดหาสินค้า

สร้างความแตกต่าง:
หาสินค้าที่มีเอกลักษณ์ หรือสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
สร้างแบรนด์สินค้าของคุณเอง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความจดจำ

2. แพลตฟอร์มออนไลน์:

เลือกช่องทางที่เหมาะสม:
ศึกษาและเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมายของคุณ เช่น Shopee, Lazada, Facebook Marketplace, Instagram Shopping หรือเว็บไซต์ส่วนตัว
พิจารณาค่าธรรมเนียม ฟีเจอร์ และความสะดวกในการใช้งานของแต่ละแพลตฟอร์ม

สร้างร้านค้าออนไลน์:
สร้างร้านค้าออนไลน์ที่สวยงาม น่าเชื่อถือ และใช้งานง่าย
อัปโหลดรูปภาพสินค้าที่คมชัด และให้ข้อมูลสินค้าที่ครบถ้วน

3. การตลาดออนไลน์:

สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์:
สร้างบัญชีโซเชียลมีเดียของร้านค้า และโพสต์เนื้อหาที่น่าสนใจอย่างสม่ำเสมอ
ใช้ภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพสูง เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า

ทำการตลาดออนไลน์:
ใช้เครื่องมือการตลาดออนไลน์ เช่น Facebook Ads หรือ Google Ads เพื่อโปรโมทร้านค้าและสินค้าของคุณ
สร้างโปรโมชั่นและแคมเปญต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย

สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า:
ตอบคำถามและข้อสงสัยของลูกค้าอย่างรวดเร็วและเป็นกันเอง
สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เพื่อให้กลับมาซื้อซ้ำ

4. การจัดการและการบริการ:

ระบบจัดการสต็อก:
มีระบบจัดการสต็อกสินค้าที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันสินค้าขาดสต็อก หรือสินค้าล้นสต็อก

ระบบขนส่ง:
เลือกบริษัทขนส่งที่น่าเชื่อถือ และมีบริการที่รวดเร็ว
แจ้งหมายเลขติดตามพัสดุให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้

บริการหลังการขาย:
มีนโยบายการคืนสินค้า หรือเปลี่ยนสินค้าที่ชัดเจน
ให้ความช่วยเหลือลูกค้าเมื่อมีปัญหา หรือข้อสงสัย

5. ทักษะที่จำเป็น:

ทักษะการสื่อสาร:
สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย
สามารถตอบคำถามและข้อสงสัยของลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ

ทักษะการตลาด:
มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์
สามารถใช้เครื่องมือการตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทักษะการจัดการ:
สามารถจัดการร้านค้าออนไลน์ได้อย่างเป็นระบบ
สามารถจัดการสต็อกสินค้า การขนส่ง และการบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คำแนะนำเพิ่มเติม:

ศึกษาข้อมูลและเรียนรู้เทคนิคการขายของออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ
ติดตามข่าวสารและเทรนด์ใหม่ๆ ในวงการ E-commerce
สร้างความแตกต่างให้กับร้านค้าของคุณ เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า
การเตรียมตัวและวางแผนอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการขายของออนไลน์เป็นอาชีพเสริมได้

14
มารู้จักตัวเครื่องมือ EF LINE ที่เป็นเครื่องมือการจัดฟันเด็ก

EF LINE (Educational Functional Line) เป็นชุดเครื่องมือจัดฟันสำหรับเด็กแบบถอดได้ หรืออาจจะเรียกว่าเครื่องมือจัดฟันแบบ "Functional Appliance" ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น (interceptive orthodontics) โดยไม่ได้เน้นแค่การเรียงฟันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปรับการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าและช่องปาก รวมถึงการเจริญเติบโตของขากรรไกรด้วยค่ะ

EF LINE คืออะไร?
EF ย่อมาจาก Educational Fonctionnelle หรือ Functional Education ซึ่งหมายถึงการศึกษาเกี่ยวกับการทำงานของช่องปาก เครื่องมือ EF LINE จึงเป็นแนวคิดและชุดเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อ:

แก้ไขความผิดปกติของการทำงานของกล้ามเนื้อ (Muscle Dysfunctions): เช่น ตำแหน่งลิ้นที่ผิดปกติ (ลิ้นดันฟัน), การหายใจทางปาก, การกลืนที่ผิดปกติ, การดูดนิ้ว, การกัดเล็บ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของขากรรไกรและการเรียงตัวของฟัน

ปรับการเจริญเติบโตของขากรรไกร (Growth Modification): ใช้ประโยชน์จากการที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต เพื่อชักนำให้ขากรรไกรบนและล่างเจริญเติบโตไปในทิศทางที่ถูกต้อง แก้ไขปัญหาโครงสร้าง เช่น คางยื่น คางหลุบ ฟันหน้ายื่นมากเกินไป

ช่วยปรับการเรียงตัวของฟัน (Dental Alignment): โดยเฉพาะในช่วงฟันผสมหรือฟันแท้กำลังขึ้น เพื่อนำทางให้ฟันแท้ขึ้นมาในตำแหน่งที่เหมาะสม มีพื้นที่เพียงพอ และลดปัญหาฟันซ้อนเก

ช่วงอายุที่เหมาะสม:
เครื่องมือ EF LINE สามารถใช้ได้ในเด็กตั้งแต่ อายุ 4-15 ปี แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการปรับโครงสร้างของใบหน้าคือ ก่อนอายุ 12 ปี ในขณะที่กระดูกขากรรไกรยังมีการเจริญเติบโตอยู่


ลักษณะและประเภทของเครื่องมือ EF LINE

เครื่องมือ EF LINE มีลักษณะคล้ายฟันยางหรือ Mouthguard ทำจากวัสดุที่ยืดหยุ่น โดยมีหลายรูปแบบและขนาด เพื่อให้เหมาะสมกับปัญหาและช่วงอายุที่แตกต่างกันของเด็ก เช่น:

EF Kid: สำหรับเด็กเล็ก 3-5 ปี

EF Start: สำหรับปัญหา Class I ในเด็ก 5-8 ปี

EF Class II: สำหรับแก้ปัญหาฟันบนยื่น ฟันสบลึก (Overbite) หรือขากรรไกรล่างถอย

EF Class III: สำหรับแก้ปัญหาฟันล่างยื่นคร่อมฟันบน (Underbite) หรือขากรรไกรบนถอย

EF Braces: สำหรับการใช้ร่วมกับการจัดฟันแบบติดแน่นในบางกรณี

EF T-series: สำหรับช่วงอายุที่แตกต่างกัน (EF T Pro, EF T Slim, EF T Slim Long)


แต่ละชิ้นจะมีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น:

มีช่องสำหรับวางตำแหน่งฟัน (indentations) เพื่อนำทางฟัน

มีแผ่นบังริมฝีปาก (lip bumper) เพื่อลดแรงกดจากกล้ามเนื้อริมฝีปาก

มีตัวกั้นลิ้น หรือร่องสำหรับวางลิ้น (tongue rest area/guidance) เพื่อปรับตำแหน่งลิ้น

มีขนาดและรูปทรงที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะกับขนาดขากรรไกร


ข้อดีของการจัดฟันด้วยเครื่องมือ EF LINE

แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ (Functional Correction): มุ่งเน้นแก้ไขพฤติกรรมหรือการทำงานของกล้ามเนื้อที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาโครงสร้างและฟันที่ผิดปกติ

ปรับการเจริญเติบโตของขากรรไกร: ใช้ประโยชน์จากช่วงที่เด็กกำลังโต ทำให้สามารถปรับโครงสร้างขากรรไกรได้โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือลดความจำเป็นในการผ่าตัดในอนาคต

ลดความซับซ้อนของการจัดฟันในอนาคต: หากแก้ไขปัญหาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ อาจลดระยะเวลาหรือความซับซ้อนของการจัดฟันด้วยเครื่องมือติดแน่นเมื่อโตขึ้น หรือในบางรายอาจไม่จำเป็นต้องจัดฟันต่อเลย

ป้องกันปัญหาฟันแตกหรือบาดเจ็บ: ในกรณีที่ฟันหน้ายื่นมาก EF LINE สามารถช่วยดึงฟันเข้าที่ ลดความเสี่ยงที่ฟันหน้าจะได้รับบาดเจ็บ

ช่วยให้การหายใจดีขึ้น: โดยเฉพาะในเด็กที่มีปัญหาหายใจทางปาก การปรับตำแหน่งลิ้นและขากรรไกรสามารถช่วยให้หายใจทางจมูกได้ดีขึ้น

ดูแลทำความสะอาดง่าย: เนื่องจากเป็นเครื่องมือแบบถอดได้ ทำให้แปรงฟันและทำความสะอาดช่องปากได้ง่ายกว่าเครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น

วัสดุมีความยืดหยุ่น: ทำให้เด็กสวมใส่สบาย ไม่ระคายเคืองมาก


ข้อจำกัดและข้อควรระวัง

ต้องอาศัยความร่วมมือของเด็กสูง: เนื่องจากเป็นเครื่องมือถอดได้ เด็กจะต้องใส่เครื่องมือตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด (โดยทั่วไปคือ 2-3 ชั่วโมงในตอนกลางวัน และตลอดคืนขณะนอนหลับ) หากเด็กไม่ให้ความร่วมมือ ผลการรักษาก็จะไม่ได้ตามเป้าหมาย

ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการเรียงฟันที่ซับซ้อนมากได้: EF LINE เน้นการปรับโครงสร้างและการทำงานของกล้ามเนื้อเป็นหลัก หากมีปัญหาฟันซ้อนเกรุนแรง หรือต้องการเคลื่อนฟันแต่ละซี่อย่างละเอียด อาจต้องใช้เครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่นในระยะต่อไป

ใช้เวลาในการรักษา: แม้จะเป็นการแก้ไขแต่เนิ่นๆ แต่ก็ใช้เวลาหลายเดือนถึงเป็นปี และต้องมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม: หากต้องมีการจัดฟันระยะที่ 2 ต่อไปในอนาคต


การใช้งานและดูแล

ใส่ตามระยะเวลาที่กำหนด: ทันตแพทย์จะแนะนำเวลาที่ต้องใส่เครื่องมือในแต่ละวัน (มักจะเป็นช่วงกลางวัน 2-3 ชั่วโมง และใส่ตอนนอนตลอดคืน)

ฝึกทำกิจกรรมเสริม: ทันตแพทย์อาจแนะนำการบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าหรือลิ้นควบคู่ไปกับการใส่เครื่องมือ เพื่อเสริมประสิทธิภาพ

ทำความสะอาดเครื่องมือ: ควรล้างเครื่องมือด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำยาทำความสะอาดฟันปลอมทุกครั้งหลังถอด และเก็บในกล่องที่จัดมาให้

รักษาความสะอาดช่องปาก: แม้เครื่องมือจะถอดได้ ก็ยังต้องแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี

EF LINE เป็นเครื่องมือจัดฟันเด็กที่น่าสนใจและมีประโยชน์อย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุ ทำให้เด็กมีพื้นฐานโครงสร้างขากรรไกรและแนวฟันที่ดี ซึ่งอาจช่วยลดความจำเป็นในการจัดฟันที่ซับซ้อนเมื่อโตขึ้นได้ค่ะ การปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันเด็กจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูกน้อยได้ค่ะ

15
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


หน้า: [1] 2 3 ... 17





















































อยากขายของดี
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ขายสินค้าไม่สต๊อกสินค้า
เริ่มขายของออนไลน์
รับทำ seo ด่วน
smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
ไม่รู้จะขายอะไรดี

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
โพสกระตุ้นยอดขาย
วิธีกระตุ้นยอดขาย เซลล์
วิธีแก้ปัญหายอดขายตก
เริ่มต้นขายของ
แหล่งรับของมาขายออนไลน์
ขายของออนไลน์อะไรดี
อยากขายของออนไลน์
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี

กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
วิธีการหาลูกค้าของ sale
ทำ SEO ติด Google
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี
วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า
ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
เพิ่มฐานลูกค้าใหม่
รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด

โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
ทําไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เคล็ดลับขายของดี
ค้าขายไม่ดีทำอย่างไรดี
งานโพสโปรโมทงาน
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
หากลยุทธ์เพิ่มยอดขาย