โพสฟรี เว็บประกาศมากมายให้เลือกซื้อขาย

หมวดหมู่ทั่วไป => โพสฟรีออนไลน์ => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 25 ตุลาคม 2025, 14:08:17 น.

หัวข้อ: ตับอักเสบเกิดขึ้นได้อย่างไร รู้ทัน ป้องกัน รักษาได้
เริ่มหัวข้อโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 25 ตุลาคม 2025, 14:08:17 น.
ตับอักเสบเกิดขึ้นได้อย่างไร รู้ทัน ป้องกัน รักษาได้ (https://doctorathome.com/disease-conditions/177)

ภาวะ ตับอักเสบ (Hepatitis) เป็นภาวะที่เซลล์ตับถูกทำลายและเกิดการอักเสบ ซึ่งมีสาเหตุหลากหลาย และสามารถป้องกันรวมถึงรักษาได้ด้วยวิธีการที่แตกต่างกันไปตามสาเหตุ

นี่คือข้อมูลสรุปเกี่ยวกับตับอักเสบในมุมมองของ สาเหตุ การป้องกัน และการรักษา:

1. ตับอักเสบเกิดขึ้นได้อย่างไร (สาเหตุหลัก)
ตับอักเสบเกิดจากการที่เซลล์ตับได้รับความเสียหายจากปัจจัยภายนอกหรือภายในร่างกาย จนเกิดกระบวนการอักเสบขึ้นมาเพื่อต่อสู้หรือพยายามซ่อมแซมตัวเอง หากการอักเสบเกิดต่อเนื่องเกิน 6 เดือน จะถือเป็น "ตับอักเสบเรื้อรัง" ซึ่งนำไปสู่พังผืด ตับแข็ง และมะเร็งตับได้

สาเหตุหลัก ๆ ได้แก่:

สาเหตุหลัก                                   รายละเอียดการเกิด
1. การติดเชื้อไวรัส   ไวรัสตับอักเสบ A, B, C, D, E เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะ B และ C ที่ก่อให้เกิดตับอักเสบเรื้อรัง

2. แอลกอฮอล์   การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและต่อเนื่อง ทำให้เกิดตับอักเสบจากแอลกอฮอล์

3. ไขมันพอกตับ   มักเกี่ยวข้องกับภาวะอ้วน เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง ไขมันที่สะสมในตับทำให้เกิดการอักเสบตามมา (NASH)

4. ยาและสารพิษ   การใช้ยาบางชนิดเกินขนาด (เช่น พาราเซตามอล) หรือการใช้สมุนไพร/อาหารเสริมที่ไม่ได้รับการรับรอง ทำให้ตับได้รับพิษ

5. ภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง   ความผิดปกติที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายหันมาโจมตีเซลล์ตับตัวเอง (Autoimmune Hepatitis)


2. การรู้ทันสัญญาณเตือน (อาการ)
เนื่องจากตับอักเสบระยะเริ่มต้นมักไม่มีอาการชัดเจน การรู้ทันสัญญาณจึงสำคัญ หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์และตรวจค่าตับ:

ตัวเหลือง/ตาเหลือง (ดีซ่าน)

อ่อนเพลีย เหนื่อยล้าผิดปกติ แม้จะพักผ่อนเพียงพอ

เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน

ปวดหรือจุกแน่นบริเวณใต้ชายโครงขวา

ปัสสาวะสีเข้ม (สีเหมือนน้ำชาหรือโคล่า)

อุจจาระสีซีด


3. วิธีการป้องกันโรคตับอักเสบ

การป้องกันต้องเน้นไปที่การลดปัจจัยเสี่ยงตามสาเหตุต่าง ๆ:

การป้องกันไวรัส
ฉีดวัคซีน: ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ A และ B (ทารกแรกเกิดทุกคนควรได้รับวัคซีน B)

สุขอนามัยที่ดี: ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร กินอาหารปรุงสุก (ป้องกัน A และ E)

หลีกเลี่ยงการสัมผัสเลือด/สารคัดหลั่ง: ไม่ใช้เข็มฉีดยา มีดโกน หรือแปรงสีฟันร่วมกับผู้อื่น และมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย (ป้องกัน B และ C)


การป้องกันตับอักเสบที่ไม่ใช่ไวรัส

งดแอลกอฮอล์: ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หรือจำกัดปริมาณให้เหมาะสม

ควบคุมน้ำหนัก/โรคเรื้อรัง: ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และรักษาโรคประจำตัว เช่น เบาหวานและความดันโลหิตสูงอย่างเคร่งครัด (ป้องกันไขมันพอกตับ)

ระวังยาและอาหารเสริม: ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานยา อาหารเสริม หรือสมุนไพรต่าง ๆ เพื่อป้องกันภาวะตับเป็นพิษ


4. แนวทางการรักษา (ขึ้นอยู่กับสาเหตุ)

การรักษาตับอักเสบจะแตกต่างกันไปตามชนิดและความรุนแรงของโรค:

สาเหตุ                                                  แนวทางการรักษาหลัก

ตับอักเสบเฉียบพลัน   พักผ่อนให้เพียงพอ, รับประทานอาหารอ่อน, และหลีกเลี่ยงปัจจัยทำลายตับ โดยส่วนใหญ่มักจะหายได้เอง

ไวรัสตับอักเสบ B/C    แพทย์จะให้ยาต้านไวรัสเพื่อยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อ ซึ่งในปัจจุบันสามารถรักษาไวรัส C ให้หายขาดได้ และควบคุมไวรัส B ให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย

ตับอักเสบจากแอลกอฮอล์   สิ่งสำคัญที่สุดคือ งดแอลกอฮอล์ โดยสิ้นเชิง อาจใช้ยาเพื่อช่วยบรรเทาอาการ
ไขมันพอกตับ            เน้นการ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ลดแป้งและน้ำตาล อาจใช้ยาบางชนิดช่วยควบคุมโรคประจำตัว
ตับอักเสบจากภูมิคุ้มกัน   แพทย์จะให้ยาที่ช่วยควบคุมหรือกดภูมิคุ้มกัน เช่น ยาสเตียรอยด์ (Steroids)

คำแนะนำสำคัญ: การตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะการตรวจหาค่าเอนไซม์ตับ (Liver Function Test) และการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบ เป็นการ "รู้ทัน" ที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้ตับอักเสบพัฒนาไปเป็นตับแข็งหรือมะเร็งตับค่ะ