ใครบ้าง ? เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานเบาหวาน คืออะไร
เบาหวาน คือ โรคที่เกิดจากตับอ่อนสร้างฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ การขาดอินซูลินหรืออินซูลินทำงานไม่ปกติจะทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดี ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
อาการของโรคเบาหวานมีลักษณะอย่างไร
หิวน้ำบ่อยมากขึ้น ปัสสาวะบ่อยขึ้น โดยเฉพาะปัสสาวะเวลากลางคืน น้ำหนักตัวลดลง โดยไม่ทราบสาเหตุ มีอาการมือ เท้าชา อ่อนเพลียง่าย สายตาพร่ามัว เวลามีแผล แผลมักหายช้า
เบาหวาน คือ อะไร ใครบ้าง ? เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
ใครเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานบ้าง
มักพบในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป หรือคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเบาหวาน เช่น พ่อ แม่ แต่ถ้าไม่มีปัจจัยเหล่านี้มักเกิดในเด็กและวัยรุ่นที่น้ำหนักเกินเกณฑ์หรืออ้วน ไม่ออกกำลังกาย มีไขมันสูง ความดันเลือดสูง ซึ่งอาจพบความผิดปกติของระบบต่าง ๆ ในร่างกายร่วมด้วย
ป้องกันและรักษาโรคเบาหวานได้อย่างไร
ผู้ที่มีความเสี่ยงหรืออายุ 35 ปีขึ้นไป ควรไปตรวจคัดกรอง รู้เร็ว รักษาเร็ว ปัญหาจะลดลงและหายไปได้ ส่วนผู้ที่เป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว ควรควบคุมเบาหวานให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทำตามคำแนะนำของแพทย์ จะทำให้เบาหวานอยู่ในภาวะสงบ และสามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับคนปกติ
คนเป็นเบาหวาน อาการแบบไหนอันตราย !
นอกจากจะต้องกินยาและปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัดแล้ว ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เพื่อจะได้ป้องกันก่อนที่จะเกิดอาการรุนแรงตามมา
โดยอาการที่เกิดจากโรคเบาหวานที่ทำให้เกิดอันตรายมีอยู่ 2 แบบ คือ
1. อาการที่เกิดจากภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เช่น เหงื่อออก ใจสั่น มือสั่น รู้สึกหิว อ่อนเพลีย แขนขาไม่มีแรง สับสน หมดสติ ชัก
2. อาการที่เกิดจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูง เช่น ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำ น้ำหนักลด คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง สับสน หมดสติ ชัก
โดยเฉพาะอาการระดับน้ำตาลในเลือดสูง หากปล่อยเอาไว้นาน จนไม่สามารถควบคุมได้ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมามากมาย เช่น โรคหลอดเลือดสมอง (โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต) โรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตัน โรคไตเรื้อรัง และเกิดอาการจากเบาหวานขึ้นจอประสาทตา ทำให้เกิดภาวะตาพร่ามัว นอกจากนี้ยังทำให้เกิดอาการจากระบบประสาทส่วนปลายเสื่อม มีอาการชาปลายมือปลายเท้าได้เช่นกัน
ดังนั้น ผู้ป่วยเบาหวานทุกคน ควรตรวจสอบอาการของตัวเองอยู่เสมอ หากพบความผิดปกติจะได้รีบรักษา ก่อนที่จะเกิดอาการรุนแรง